รากฟันเทียม (Dental Implant) คือการทดแทนฟันที่สูญเสียไปที่ดีและทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยการฝังรากฟันที่ทำจากวัสดุไทเทเนียมซึ่งเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ลงไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติ จากนั้นจึงยึดครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันปลอมไว้ด้านบน ทำให้ได้ฟันใหม่ที่แข็งแรง สวยงาม และใช้งานได้เหมือนฟันจริง
ข้อดีของรากฟันเทียม
- ใกล้เคียงฟันธรรมชาติที่สุด: ทั้งในด้านความสวยงามและความรู้สึกขณะใช้งาน
- แข็งแรง ทนทาน: มีอายุการใช้งานยาวนาน หากดูแลรักษาอย่างดี
- ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง: แตกต่างจากการทำสะพานฟัน ทำให้สามารถรักษาสภาพฟันซี่อื่นไว้ได้
- รักษากระดูกขากรรไกร: ช่วยป้องกันการละลายตัวของกระดูกบริเวณที่สูญเสียฟันไป
- เพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว: สามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายเหมือนมีฟันธรรมชาติ
ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม
- ปรึกษาและวางแผนการรักษา: ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียด และทำการ X-ray 3 มิติ (CT Scan) เพื่อประเมินปริมาณและคุณภาพของกระดูกขากรรไกร และวางตำแหน่งการฝังรากเทียม
- การฝังรากฟันเทียม: เป็นการผ่าตัดเล็กโดยใช้ยาชา ทันตแพทย์จะเปิดเหงือกและฝังรากฟันเทียมไทเทเนียมลงไปในกระดูกขากรรไกร
- ระยะเวลาพักฟื้น: ต้องรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกร (Osseointegration) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-4 เดือน
- การใส่ครอบฟัน: เมื่อรากฟันเทียมยึดติดดีแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อทำครอบฟัน และนำมายึดติดกับรากฟันเทียม เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ